8 ชุดไทยพระราชนิยม มรดกจากราชสำนัก สู่ความงามร่วมสมัย
สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำริให้จัดทำ ชุดไทยพระราชนิยมขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2503 เนื่องในโอกาสโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงเจริญสัมพันธไมตรีในต่างประเทศ 15 ประเทศ ในทวีปอเมริกาและยุโรป
พระองค์ โปรดให้ศึกษาธรรมเนียมการแต่งกายไทยในอดีต และทรงออกแบบชุดไทยทั้ง 8 แบบ เพื่อให้สตรีไทยมีเครื่องแต่งกายประจำชาติที่เป็นแบบแผน โดยแต่ละชุดตั้งชื่อตามพระที่นั่งสำคัญ
“ชุดไทยพระราชนิยม” แบ่งออกเป็น 8 แบบหลัก โดยแต่ละชุดมีรูปแบบ ความประณีต และความเหมาะสมต่อโอกาสต่าง ๆ
1.ชุดไทยเรือนต้น
รูปแบบที่เรียบ สุภาพ และสะดวกในการเคลื่อนไหว
เหมาะสำหรับงานกึ่งทางการหรืองานที่ไม่เป็นพิธีรีตองนัก เช่น งานเลี้ยงแบบไม่เป็นทางการ
2. ชุดไทยจิตรลดา
เรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยความสง่างาม
มักถูกเลือกสวมใส่ในโอกาสที่เป็นทางการ อาทิ การต้อนรับแขกเมือง งานพระราชพิธี หรือพิธีสวนสนาม
3. ชุดไทยอมรินทร์
ตัวเสื้อเป็นคอกลมแขนยาว มักปักดิ้นทองหรือดิ้นเงิน เพิ่มความงดงาม
เหมาะใส่ในงานพิธีการตอนค่ำ
4. ชุดไทยบรมพิมาน
ตัวเสื้อเป็นแขนยาว คอตั้ง คล้ายชุดจิตรลดา แต่มีผ้าสไบหรือผ้าพาดไหล่
ใช้ในงานพิธีที่ต้องการความสุภาพและความสง่า เหมาะสำหรับงานพิธีการระดับสูง
5. ชุดไทยดุสิต
เสื้อเป็นแขนกุด คอกลมหรือคอเหลี่ยม มักประดับด้วยลูกไม้หรือดิ้นเงิน หรือเลื่อมอย่างประณีต
มักใช้ในงานพิธีตอนกลางคืน แทนชุดราตรีแบบตะวันตก
6. ชุดไทยจักรี
ตัวเสื้อเป็นแขนหนึ่งเดียว อีกข้างพันผ้าสไบเฉียงดูหรูหรา ใช้ผ้ายกดิ้นทองหรือเงิน
นิยมใส่ในงานแต่งงานหรืองานกลางคืน
7. ชุดไทยศิวาลัย
ตัวเสื้อแขนยาว คอตั้ง ใช้ผ้ายกหรือผ้าไหม
นิยมใช้ในงานพระราชพิธี หรือพิธีทางศาสนา พิธีการที่มีหมายกำหนดการอย่างเคร่งครัด
8. ชุดไทยจักรพรรดิ
หรูหราที่สุดในบรรดาชุดไทยพระราชนิยม ใช้ผ้ายกดิ้นทอง หรือผ้ายกไหมที่มีลวดลายงดงาม ตัดเย็บอย่างประณีต
มักสวมใส่ในงานพระราชพิธีสำคัญหรือโอกาสพิเศษที่ต้องการความโอ่อ่า
